วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โรคหลอดเลือดสมอง


ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง


ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญและพบบ่อย ของประเทศไทย เป็นสาเหตุที่สำคัญอันดับ 1 ของการเสียชีวิตในเพศหญิงและอันดับ 2 ในเพศชาย ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยจะมีปัญหาด้านการพูด การสื่อสาร และ ร้อยละ 30 ของผู้ป่วยจะมีความพิการซึ่งต้องอาศัยการดูแลช่วยเหลือ จากผู้อื่นตลอดชีวิต โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร ? โรคซึ่งเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง ที่ทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทอย่างเฉียบพลัน เป็นอยู่นานมากกว่า 24 ชั่วโมง หรือ เสียชีวิต 

ประเภทของโรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 

1. โรคหลอดเลือดสมองแตก พบได้ประมาณร้อยละ 20 - 30 ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด


2.โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน พบได้ประมาณร้อยละ 70 - 80 ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด
ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

1.โรคความดันโลหิตสูง
2. สูบบุหรี่
3.โรคเบาหวาน
4.โรคหัวใจ
5.ภาวะไขมันในหลอดเลือดสูง
6.โรคอ้วน
7.ดื่มสุราปริมาณมากๆ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ เชื้อชาติ ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด

อาการสำคัญ
ผู้ป่วยจะมีอาการเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทันทีทันใด ดังต่อไปนี้
- แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง
- แขนขาชาซีกใดซีกหนึ่ง
- ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด
- ตามัว หรือ ตามองไม่เห็นข้างใดข้างหนึ่งหรือเห็นภาพซ้อนสองทันทีทันใด
- ปวดศีรษะรุนแรง เฉียบพลันและ อาเจียนพุ่ง - เวียนศีรษะอย่างรุนแรง เดินเซ เสียการทรงตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ ข้างต้น
อาการแสดง




แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่งทันทีทันใด แขนขาชาซีกใดซีกหนึ่งทันทีทันใด






ตามัว หรือ ตามองไม่เห็นข้างใดข้างหนึ่งหรือเห็นภาพซ้อนสองทันทีทันใด






 
ปากเบี้ยว พูดไม่ชัดทันทีทันใด




ปวดศีรษะรุนแรง เฉียบพลันและ อาเจียนพุ่ง








เวียนศีรษะอย่างรุนแรง เดินเซ เสียการทรงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดร่วมอาการอื่นข้างต้น





“อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทันทีทันใด”
การปฏิบัติเมื่อเป็นโรคหลอดเลือดสมอง

-หยุดกิจกรรมทุกอย่างที่กำลังทำอยู่
-ให้นอนราบเพื่อป้องกันการหกล้มบาดเจ็บที่ศีรษะ
-ในผู้ป่วยที่หมดสติ ให้ตะแคงตัวหรือหันหน้าไปข้างใดข้างหนึ่งเพื่อป้องกันการสำลัก
-รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันทีไม่ว่าจะมีอาการหนักหรือเบา
หากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองได้รับการรักษารวดเร็วเท่าใดจะยิ่งเป็นการหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อสมองแบบยาวนานได้

การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง

ขึ้นอยู่กับชนิด ความรุนแรง และระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการโดยเฉพาะถ้าผู้ป่วยมาเข้ารับการรักษาเร็วเท่าใด ความพิการและอัตราการตายจะลดลงมากเท่านั้น

1. การรักษาทางยา เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือดในโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน ยารักษาความดันโลหิตสูง ยาและสารน้ำรักษาสมองบวม เป็นต้น
2. การผ่าตัดในรายที่อาการ ซึม หมดสติ และมีก้อนเลือดขนาดใหญ่ในสมอง เป็นต้น
การรักษาและควบคุมปัจจัยเสี่ยง และโรคแทรกซ้อน
3. การรักษาทางกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสภาพทางร่างกายผู้ป่วย ป้องกันโรคแทรกซ้อน โรคหลอดเลือดสมองมีโอกาสกลับเป็นซ้ำภายหลังการรักษา ผู้ป่วยและผู้ดูแลต้องให้ความสำคัญต่อการป้องกันปัจจัยเสี่ยง

การป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง

1.งดสูบบุหรี่
2.งดดื่มสุรา
3.รับประทานผัก ผลไม้ เพื่อช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น
4.ดื่มน้ำมากๆ อย่ารับประทานอาหารมันๆ เพื่อป้องกันหลอดเลือดตีบตัน
5.ถ้ามีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต ต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
6.อย่าเครียด อย่าโมโหง่าย อย่าคิดมาก
7.ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาทีอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
8.ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม อย่าให้อ้วน
9.ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง เช่นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
 ถ้าพบต้องรักษาและพบแพทย์สม่ำเสมอ 

                                                                                   stroke PT hospital

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น